ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“สุดาวรรณ” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศพลิกโฉมท่องเที่ยวและกีฬาไทยในปี 2567

“สุดาวรรณ” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศพลิกโฉมท่องเที่ยวและกีฬาไทยในปี 2567

         นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว จัดงานประกาศแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วาง 7 นโยบายขับเคลื่อนท่องเที่ยวและกีฬา ใช้ Soft Power เป็นขุมพลังใหม่ พลิกโฉมท่องเที่ยวและกีฬาไทยในปี 2567 ต่อสื่อมวลชน โดยมีนายสุพจน์ วงศ์จรัสรวี คณะปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว นาวาเอก อธิคุณ คงมี อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมด้วย ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 สำนักงานปลัดกระทรวงการห่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ เมื่อวันพุธที่ 17 มกราคม 2567



       นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศเป้าหมายการทำงนปี 2567 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท เพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยให้ได้ 1% ของอุตสาหกรรมกีฬาโลก คิดเป็นมูลค่า 455,800ล้านบาท วาง 7 นโยบายขับเคลื่อนท่องเที่ยวและกีฬา ใช้ Soft Power เป็นขุมพลังใหม่


        นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอประกาศนโยบายที่สำคัญที่จะ “พลิกโฉมการท่องเที่ยว และกีฬาของไทย” ด้วยการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยที่มีเพียง 0.58% ในขณะนี้ให้เป็น 1% จากอุตสาหกรรมกีฬาโลกที่มีขนาด 45.58 ล้านล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 455,800 ล้าน บาทให้ได้
"เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว มีความมุ่งมั่นและตั้งใจว่าในปี 2567 เราจะเติบโต ไปพร้อมๆ กัน จับมือไปด้วยกันกับทุกภาคส่วน ดิฉันจะเน้นการบูรณาการกับทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ จะพูดจากันมากขึ้น บูรณาการกันมากขึ้น เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างว่องไว"


          สำหรับนโยบายที่กระทรวงฯ จะขับเคลื่อนในปี 2567 มี 7 นโยบายหลักๆ
          นโยบายแรกคือ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2567 จากเชิงปริมาณเข้าสู่โหมดของคุณภาพ ทั้งมิติของในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยคึกคักตลอดทั้งปี ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย
"ประเทศไทยต้องมี High season on year round tourism destination คือ เที่ยวได้ทั้งปี หรือเที่ยวได้ ทั้ง 365 วัน จึงได้เตรียม Event ต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ ที่จะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพราะยูเนสโก้เพิ่งประกาศขึ้นทะเบียนให้สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ จึงต้องยกระดับกิจกรรม Event ต่างๆ ในระดับชุมชนให้เป็น Event ในระดับนานาชาติ เป็นการกระตุ้นการไปท่องเที่ยวเมืองรอง จะทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาตลาดเดิม และเจาะตลาดนักท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง”


          นโยบาย 2 กระทรวงฯจะใช้ Soft Power เป็นพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศไทยให้เป็น “Engine the New Power” และจุดเด่นของ Soft Power ก็จะมีในเรื่องของกีฬาเข้ามาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนด้วยและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกที่สำคัญ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน demand ของการท่องเที่ยวและการกีฬาได้เป็นอย่างดี
         นโยบายที่ 3 ประเทศไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยทั้ง Hospitality และ Safety โดยต้องทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่า “เมืองไทยปลอดภัย” มาแล้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ต้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามการเอาเปรียบ หลอกลวงนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยของเรา
        นโยบายที่ 4 เรื่อง Responsibility เราต้องทำให้การท่องเที่ยวนั้นยั่งยืน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นนโยบายที่พูดกันมานานแล้ว แต่ในปี 2567 จะนำเรื่องนี้มาขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นจริงๆ การท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ต่อเมื่อ “ท้องถิ่น” ต้องมาร่วมขับเคลื่อนด้วยกัน


        นโยบายที่ 5 จะใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางเชื่อมโยงภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ปลายเดือนนี้ จะมีประเด็นพูดคุยที่สำคัญคือ ASEAN Connect ที่จะทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก


        นโยบายที่ 6 มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนด้านกีฬาพื้นฐาน โดยวางระบบการพัฒนาทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม พัฒนาการการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ทุกคนสามารถออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต สามารถเข้าถึงกีฬาได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งคนทั่วไป ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งจะมีการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาเพื่อการอาชีพที่จะต้องพัฒนากีฬาทุกระดับและบุคลากร รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาเพิ่มสมรรถนะให้กับนักกีฬาไทยให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันในระดับนานาชาติ หรือกีฬาอาชีพ และต้องผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ สุดท้ายคือ E-Sport ถือเป็นกิจกรรมกีฬาใหม่ที่ต้องส่งเสริมเพราะสามารถสร้างทักษะให้กับเยาวชนและ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก
              และ นโยบายที่ 7 การเตรียมพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งปี 2567 จะมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการทั้งการส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬา โอลิมปิกปารีส 2024 และการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ได้แก่/ เอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์/ จักรยานยนต์โมโตจีพี/ เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก/ ฮอนด้า แอลพีจี เอ ไทยแลนด์ 2024/ รวมถึงการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่ง มี 3 จังหวัดร่วมเป็นเจ้าภาพ คือ กรุงเทพ ชลบุรี และสงขลา

               
           สำหรับความสำเร็จของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งสิ้น 28 ล้านคน เศษ เกินกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ส่วนรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 2.38 ล้านล้านบาท แต่สรุปตัวเลขเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 จากปี 2565
            ส่วนผลงานด้านกีฬาในปี 2566 นักกีฬาของเรามีผลงานในชนิดกีฬาสากลที่ดีขึ้น และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการจัดกีฬาในระดับนานาชาติ ได้แก่ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ครั้งที่ 16 การแข่งขันรายการโมโตจีพี 2023 การจัดการแข่งขันรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2023 ซึ่งทุกรายการมีแฟนกีฬาทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าชมเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และผู้ประกอบการได้เป็นจำนวนมาก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

"ฉลอม" ประธาน TFOPTA จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ณ จังหวัดระยอง

"ฉลอม" ประธาน TFOPTA จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ณ จังหวัดระยอง  มีสมาชิกจากทั่วทุกภาคของประเทศร่วมงานคับคั่ง         นางฉลอม สงล่า ประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA ) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 โดยมีสมาชิก TFOPTA จากทั่วทุกภาคของประเทศ พร้อมแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นายชัย อรุณานนท์ชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) รวมทั้งบุคคลในแวดวงท่องเที่ยว และสื่อมวลชน ร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ห้องประชุมศรีสุวรรณ โรงแรม โนโวเทล ระยอง สตาร์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568        โดยในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก นายวัชรพล สารสอน ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง มาพูดถึงกิจกรรม Product Briefing สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว Product Highlight ของจังหวัดระยอง        ตามด้วย การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA ) โดยมี นางฉลอม สงล่า ประธาน TFOPTA เป็นประธานในการประชุม พร้อม...

"นครพนม" ขอเชิญร่วมงาน "มหกรรมไหลเรือไฟโลกและงานกาชาด จังหวัดนครพนม 2568" ปีนี้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่

"นครพนม" ขอเชิญร่วมงาน "มหกรรมไหลเรือไฟโลกและงานกาชาด จังหวัดนครพนม 2568"  ปีนี้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ รวม 12 วัน 12 คืน แห่งศรัทธาและวัฒนธรรมริมฝั่งโขง ระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 8 ตุลาคม 2568      ปีนี้ นครพนมจัดงาน"มหกรรมไหลเรือไฟโลกและงานกาชาด จังหวัดนครพนม 2568" อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 8 ตุลาคม รวม 12 วัน 12 คืน แห่งศรัทธาและวัฒนธรรมริมฝั่งโขง      ภายในงานพบกับกิจกรรมไฮไลท์ที่ตื่นตาตื่นใจ ที่ห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็น 1️⃣ เรือไฟเฉลิมพระเกียรติ ยาว 70 เมตร เทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2️⃣ ขบวนเรือไฟบกสุดตระการตา Illuminated Boat Carnival พร้อมนางงามและนางรำร่วมเดินขบวนกว่า 900 ชีวิต 3️⃣ การแสดงแสง สี เสียง และม่านน้ำสุดอลังการ 4️⃣ มหกรรมไม้ไผ่ เยี่ยมชมนิทรรศการไม้ไผ่ ร้านค้าชุมชนผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ การประกวดดนตรีพื้นบ้านและการแสดงวัฒนธรรม 5️⃣ กิจกรรม “Light Up the World” การประกวดคลิปจากอินฟลูเอนเซอร์ ถ่ายทอดเรื่องราว “แสงศรัทธา สู่สายตาทั่วทั้งโลก” 6️⃣ การแสดงโดรนแปรอักษร สุดตื่...

"ชัย" ประธาน สทท. นำทีม แถลงข่าว “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย และอัพเดตสถานการณ์ท่องเที่ยว” ไตรมาส 2/2568

"ชัย" ประธาน สทท. นำทีม แถลงข่าว “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย  และอัพเดตสถานการณ์ท่องเที่ยว” ไตรมาส 2/2568         สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) แถลงข่าว “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยและอัพเดตสถานการณ์ท่องเที่ยว”ไตรมาส 2/2568  โดยมี นายชัย อรุณานนท์ชัย ประธาน สทท. เป็นประธานแถลงข่าว พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีเอนก นุรักษ์ รองประธานฝ่ายบริหาร สทท. นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม รองประธานฝ่ายยุทธศาสตร์ นายจีระยุ จารุกิตติวรกานต์ เลขาธิการ สทท. และรศ.ผกากรอง เทพรักษ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ร่วมแถลงข่าว ท่ามกลางคณะกรรมการบริหาร สทท. อาทิ นางฉลอม สงล่า, นายแพทย์สมชัย เจียรนัยศิลป์, นางสมทรง สัจจาภิมุข, นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์, นายวัสน์พล อรรถพรธนเสฐ, นางสาววิชชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา, นายรัชชพร พูลสวัสดิ์, นางกชนิภา อินทสุวรรณ, นายวิทวัส เมฆสุด, นายสุรัตน์ ศรีเบญจโชติ, นางศุลีพร เสรีวิวัฒนา, นายวรวุฒิ วรแสง และนายสมเกียรติ หินทอง รวมทั้งสื่อมวลชน  เข้าร่วมฟัง จำนวนมาก ณ ห้องประชุมจารุวัสต์ ชั้น 10 อาคารการท่...