ตำรวจท่องเที่ยวรวบไกด์จีนเถื่อน ทำบัตรปลอม "ชื่อเป็นหญิง แต่รูปเป็นชาย"

ตำรวจท่องเที่ยวรวบไกด์จีนเถื่อน

ทำบัตรปลอม "ชื่อเป็นหญิง แต่รูปเป็นชาย"

    หนุ่มชาวจีนแฝงตัวเป็นไกด์ Overstay มานานกว่า 3 ปี พบใช้บัตรปลอมหลอกนำเที่ยว แถมจ้างซิตติ้งไกด์ชาวไทยตบตาเจ้าหน้าที่ ก่อนถูกตำรวจท่องเที่ยวตามรวบตัว

     ตำรวจท่องเที่ยว นำกำลังเข้าจับกุม Mr.Jinkei Wang อายุ 30 ปี ไกด์เถื่อนชาวจีน และผู้ช่วยมัคคุเทศก์ชายชาวไทย 1 คน โดยจับกุมได้ที่ลานจอดรถทัวร์ วัดเขาชีจรรย์ ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ขณะกำลังนำนักท่องเที่ยวชาวจีนไปเที่ยว เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568

     สืบเนื่องจาก พันตำรวจเอก แมน รถทอง ผู้กำกับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้สั่งชุดสืบสวนติดตามข้อมูลจากเพจ “ข่าววงการท่องเที่ยว” ที่เผยภาพบุคคลใช้บัตรไกด์ปลอม พานักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่พัทยา จนทราบเบาะแสว่าพักอยู่ที่โรงแรมบนเขาพระตำหนัก

     ต่อมา วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 08.00 น. ชุดสืบสวนพบชายต้องสงสัยเดินลงมาพร้อมกลุ่มทัวร์ชาวจีนกำลังจะเดินทางออกจากโรงแรม จึงเฝ้าติดตามไปยังวัดเขาชีจรรย์ พบชายดังกล่าวทำหน้าที่ดูแล และอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว รวมถึงประสานงานกับมัคคุเทศก์อย่างใกล้ชิด จึงเข้าตรวจสอบ เมื่อคณะทัวร์กลับมาที่รถตู้

     จากการตรวจเอกสารกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 9 คน พบชื่อ Mr.Jinkei Wang แต่ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้า–ออกประเทศ จึงเชิญตัวมาตรวจสอบหนังสือเดินทาง และพบว่าเข้ามาไทยเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 5 มกราคม 2566 แต่ยังคงพำนักอยู่ในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน รวม Overstay จำนวน 1,043 วัน

     และจากแนวทางการสืบสวนพบว่า Mr.Jinkei Wang ได้ว่าจ้างมัคคุเทศก์สาวชาวไทยให้มาทำหน้าที่ผู้ช่วยมัคคุเทศก์ขณะพานักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของไทย เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดย Mr.Jinkei Wang ได้ปลอมแปลงบัตรมัคคุเทศก์ ซึ่งเป็นชื่อของมัคคุเทศก์สาวชาวไทยอีกคนหนึ่ง ด้วยการนำรูปภาพของตัวเองมาใส่แทน

     จากนั้นมัคคุเทศก์สาวชาวไทย ได้นำภาพบัตรมัคคุเทศก์ปลอมใบนี้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนจะมีคนเข้าไปพบแล้วนำข้อมูลส่งให้เพจข่าววงการท่องเที่ยว จนกระทั่งมีการเผยแพร่ในโซเชียล ไกด์เถื่อนจึงเลิกจ้างมัคคุเทศก์สาวทันที แล้วไปจ้างมัคคุเทศก์ชายชาวไทยมาทำหน้าที่แทน ก่อนที่มัคคุเทศก์สาวจะกลับใจเข้ามาให้ข้อมูลโปรแกรมนำเที่ยวกับตำรวจ จนกระทั่งนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้

     จากพฤติการณ์ทำงานเป็นผู้ประสานงานนำเที่ยวโดยไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นคนต่างด้าวทำงานผิดประเภทที่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด” (Overstay 1,043 วัน) ก่อนนำตัวส่ง สภ.นาจอมเทียนเพื่อดำเนินคดี ส่วนมัคคุเทศก์ชาวไทยทั้ง 2 คน ทางตำรวจจะประสานความร่วมมือไปยังนายทะเบียนกรมการท่องเที่ยว เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

     ทั้งนี้ ตำรวจท่องเที่ยวยังคงเปิดปฏิบัติการเชิงรุก ตรวจเข้มชาวต่างชาติประกอบอาชีพผิดกฎหมาย ตามนโยบายกวดขันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มุ่งแก้ปัญหาการลักลอบทำงานผิดกฎหมาย อาชญากรรมข้ามชาติ และพฤติกรรมที่กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย 

     จึงขอความร่วมมือประชาชน หากพบการลักลอบทำงานของชาวต่างชาติ หรือพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อความมั่นคงด้านการท่องเที่ยว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Facebook: ตำรวจท่องเที่ยว Thailand Tourist Police